การสร้างสรรค์ลวดลายและทักษะฝีมือการปักที่มีความละเอียด และการเย็นผ้าของชนเผ่าอาข่า

การปัก หมายถึง การปักลวดลายให้เกิดขึ้นบนผืนผ้า ด้วยด้ายหลากหลายลวดลายและสีสัน
มีทั้ง การปักแบบเดินเส้น เช่น ลายถ่อง (กลอง) การปักกากบาทตามตาของผ้า (คล้ายการปักครอสติช) เช่น ลายอาปะ (ใบไม้)
และการปักด้ายเป็นรูปร่างลวดลายแบบทึบ ถือเป็นการปักที่ยากที่สุด เนื่องจากต้องมีการกะน้ำหนักในการดึงเส้นด้ายระหว่างการปัก
ให้พอดี ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป จึงจะได้เป็นลวดลายที่สวยงาม และสมบูรณ์ เช่น ลายโจวพะ (ดอกหญ้า) ลายพะดื่อ (สามเหลี่ยม) เป็นต้น
การเย็บผ้าปะติด หมายถึง การนำแถบผ้าที่มีการเย็บติดลวดลายมาประดับเข้ากับผ้าผืนหลักที่ต้องการเช่น เสื้อหรือผ้าพันน่อง
โดยขั้นตอนการทำเริ่มต้นจากการตัดเศษผ้า เป็นรูปร่างลวดลายเล็กๆตามต้องการ แล้วนำมาเย็บติดตรึงกับแถบผ้าพื้นหลังอีก 1 ชิ้น
ด้วยด้ายสีสันสดใส เสร็จแล้วจึงนำแถบผ้าที่มีลวดลายสำเร็จแล้วนั้น นำมาเย็บติดกับชิ้นผ้าที่ต้องการประดับ
เช่น เสื้อ ผ้าพันน่อง อีกครั้ง สำหรับลายยอดนิยมของเทคนิคนี้ได้แก่ ลายอาลูละโอ (ลิ้นผีเสื้อ) และลายลาฉ่อง(แถบแฉก)
------------------------------------
ลายถ่อง (กลอง)
ถ่อง เป็นภาษาชนเผ่าอาข่า หมายถึง กลอง
เพราะลักษณะของลายถ่องนั้น จะปักเป็นลายสามเหลี่ยม หันปลายชนกัน
คล้ายลักษณะรูปทรงของกลองยาว ที่เป็นเครื่องดนตรีประจำของชนเผ่าอาข่านั่นเอง
---------------
ลายลาเถ่ (แถบแฉกครึ่งเดียว)

ลาเถ่ ใช้เรียกลวดลายงานเย็บปักผ้าที่มีลักษณะเหมือนกับการนำลายลาฉ่อง ที่มีรูปร่างเป็น
สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มาแบ่งครึ่งเป็นสามเหลี่ยมทรงสูง จึงมักเรียกลายนี้ว่า แถบแฉกครึ่งเดียว
---------------
ลายอาลูละโอ (ลิ้นผีเสื้อ)
อาลูละโอ แปลว่า ลิ้นผีเสื้อ เป็นงานปัก หรืองานเย็บผ้าปะติด ที่คล้ายรูปสี่เหลี่ยม และสามเหลี่ยมซ้อนกัน ส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยมเสมือนเป็นปีกของผีเสื้อ สามเหลี่ยมด้านในซึ่งมีรูปร่างส่วนปลายแหลมนั้น เสมือนลิ้นของผีเสื้อที่ยื่นออกมาเพื่อใช้ในการดูดหาน้ำหวาน จินตนาการมาจาก การเห็นผีเสื้อออกหาอาหารในธรรมชาติ.----------------------------------------
ลายพาเนบะ (แถบผ้าสีต่อกัน)
พาเนบะ ที่ใช้เทคนิคการนำผ้าแถบสีสันสดใสหลาย ๆ แถบสี มาเย็บติดต่อเข้าด้วยกันจนเป็นผืน ลายพาเนบะ นิยมนำไปใช้ตกแต่งกันมากที่สุด คือบริเวณผ้าพันน่อง และแขนเสื้อของผู้หญิงชาวอาข่าทั้งสองข้าง.-------------------
ลายพะเดื่อ (สามเหลี่ยม)
พะดื่อ ภาษาไทยเรียกลวดลายนี้ว่า สามเหลี่ยม ซึ่งเป็นการเรียกตามลักษณะของลายปักที่มีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าเรียงซ้อนติดกันต่อเนื่องไป จนสิ้นสุดตลอดแนวของผ้า-------------------
ลายอาก่อ (เส้นทาง)
อาก่อ หมายถึง เส้นทาง ใช้เป็นชื่อเรียกลายปักพื้นฐาน ที่หญิงชาวอาข่าทุกคน ต้องฝึกปักเป็นลายแรก
ถือเป็นลายดั้งเดิมที่บรรพบุรุษถ่ายทอดสืบทอดต่อกันมา จากรุ่นสู่รุ่น
ลักษณะของลายนี้ เป็นการปักเดินเส้นด้ายสลับกันเป็นตาข่าย ต่อเนื่องจนกลายเป็นเส้นยาว
-------------------ลายพาย (ลูกเต๋า)
พาย หมายถึง ลูกเต๋า ลวดลายปักที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมด้านเท่า เล็ก ๆ วางเรียงต่อกัน
ในสมัยโบราณ ชายหนุ่มชาวอาข่า มักนิยมนำมาเล่นทอยพนันกันในประเพณีงานศพประจำหมู่บ้าน
-------------------
ลายโจวเยอ (ใบของต้นอือนุ)
โจวเยอ ลักษณะของลายโจวเยอนั้น เป็นงานปักเดินเส้นด้ายเป็นรูปสามเหลี่ยมทั้งหมด 8 ชิ้น
นำปลายแหลม มาชนกัน จนกลายเป็นรูป 4 เหลี่ยมด้านเท่า
ใช้ด้าย 2 สี ปักสลับกัน ให้ความรู้สึกเหมือนเส้นด้ายพุ่งออกมาจากตรงกลางรอบทิศทาง
-------------------ลายลาฉ่อง (แถบแฉก)
ลาฉ่อง เป็นภาษาชนเผ่าอาข่า
ใช้เรียกลวดลายงานเย็บปักผ้าโบราณ ที่มีการสืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ
ชาวอาข่าบางหมู่บ้านเรียกลายนี้ว่า ลายแถบแฉก
หรือการออกเสียงแบบชนเผ่าว่า แถะแฉะ
มีทั้งงานปักและงานเย็บผ้าปะติด
-------------------ลายโจวพะ (ดอกหญ้า)
โจวพะ ลักษณะงานปักเป็นจุดเล็กๆ ส่วนปลายดูคล้ายปลายพู่ห้อยสะบัดแยกออก
จึงเรียกลวดลายลักษณะนี้ด้วยว่า ดอกหญ้า จะปักประดับบริเวณส่วนต่าง ๆ ของเสื้อผ้า.
--------------------------------
ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงราย